เกษศิรินทร์ เมตตาธรรม (แก้มป่อง)
เฝ้าแอบมอง ‘พี่สอง’ ตั้งแต่แตกเนื้อสาว
หากเธออยากสมหวังต้องออก ‘ล่า’ หัวใจนายตำรวจ
ร้อยตำรวจเอก พุฒิธร โกสุมเรืองฤทธิ์ (สอง)
กายข้านี้พลีชีพเพื่อแผ่นดิน หัวใจยังถวิลหาเพียง ‘เธอ’
และ กว่าจะรู้ใจตัวเอง ทั้งคู่ก็เสียเวลามานานเนิ่น
จนต้องใช้ตัวช่วยอย่าง...
ศิรินทร์เกษ เมตตาธรรม (ตาหวาน) ผู้หมวดปากหมา(น) อานนท์ นนทการันต์
มันก็จะอิรุงตุงนัง วุ่นวาย จนกลายเป็น...
หนึ่งคู่ชู้ชื่น และ หนึ่งคู่กัด ฟัดกันนัว
แค่ก แค่ก แค่ก
คนเคยสำลักน้ำครั้งสุดท้ายตั้งแต่ยังไม่เจ็ดขวบไอโขลก ยกมือลูบหน้าปาดหยดน้ำออก พยายามตะกายน้ำหนี เมื่อเจ้าของร่างหนากำลังจะโผล่พ้นน้ำตามเธอมาไม่ถึงเสี้ยวนาที หัวหลังจ้วงแขนได้ครั้งเดียว เอวคอดก็ถูกตวัดเข้าหาอกแกร่งอีกระรอก
“กรี๊... อื้อ!” ปากถูกปิดด้วยมือแกร่งอีกครั้ง ตามมาด้วยเสียงปราม คำรามเข้มงวด
“เงียบ!”
เพียงเสียงเดียวจริงๆ ที่เธอจำได้ขึ้นใจ ยกมือน้อยดึงมือแกร่งออกจากใบหน้าตนเอง ขืนตัวเอี้ยวมองคนทางเบื้องหลัง ซึ่งเขาก็อำนวยความสะดวก แต่ไม่ปล่อยเสียทีเดียว
“พี่สอง!” อุทานเสียงแผ่วคิ้วขมวดมุ่น โล่งอกเมื่อพบว่าคนที่คิดประทุษร้ายเธอ คือ คนคุ้นใจ “พี่มาทำอะไรที่นี่!”
“ขึ้นจากน้ำ ไปเก็บของแล้วกลับพร้อมพี่”
เกษศิรินทร์กะพริบตาปริบๆ ยกมือลูบหน้าไล่หยดน้ำออกจากแพขนตาอีกรอบ เพื่อจะได้มองคนตรงหน้าได้ชัดๆ รู้สึกฉงน งงงวย ที่ได้พบเขาที่นี่ จังหวัดไกลปืนเที่ยง แถมยังติดเขตชายแดนเพื่อนบ้านอีก
พอเห็นหน้าแล้วคิดว่าจะสั่งเธอได้ง่ายๆ เหรอ ฝันไปเถอะ!
“ไม่ค่ะ เชิญพี่ตามสบาย พวกเรายังเที่ยวไม่จุใจเลย” บอกพลางผลักอกแกร่งออกห่างหากไร้ผล ร่างแกร่งกลับเบียดบดร่างเธอดุนดันจนแผ่นหลังนุ่มประชิดติดกับโขดหิน “นี่! พี่สอง!”
ร่างสูงไม่สนใจเสียงข่มขู่ ใบหน้านิ่ง คมคร้าม จ้องมองนัยน์วาวหวานระยับราวกวางน้อยระวังภัย ถามซ้ำประโยคเดิม
“ไปเก็บของ”
“นี่แน่ะ! เก็บของ ไอ้พี่สองบ้า!”
เล็บมนข่วนใบหน้าหล่อคมลากยาวมาจนถึงลำคอจนขึ้นริ้วห้านิ้ว เธอระบายอารมณ์ใส่ชายหนุ่มตรงหน้าไม่สนใจว่าตอนนี้เขาจะอยู่ในโหมดอารมณ์เช่นใด มารู้สึกอีกทีท่อนขาเรียวใต้น้ำก็ถูกยกแยกบังคับให้โอบรอบเอวแกร่ง ใบหน้าคมสันไร้หนวดเคราอยู่ห่างเธอไม่ถึงคืบ เลยหยุดการประทุษร้ายทั้งหมดทั้งมวล เมื่อสัมผัสสได้ถึงบางสิ่งที่กำลังบดอัดเบียดท้องน้อง ลมหายใจสะดุด
“สรุปไม่กลับ?”
“ไม่! พี่มีสิทธิ์อะไรมาสั่ง” กลัวแทบตาย แต่ยังปากดี สองมือค้ำยันอกแกร่งที่ยังคงสวมเสื้อผ้าเต็มตัว
“เอามือออก” สั่งเสียงกร้าวพร่า คนในอ้อมแขนปฏิบัติตามอย่างลนๆ พริบตาเดียว ท่อนบนเขาก็เหลือเพียงอกแกร่งแน่นๆ ล่ำบึก
“จะ... ทำไร?” ถามเสียงสั่นขาดห้วง ลืมอิริยาบถของตนเองไปชั่วขณะ
“ก่อสิทธิ์”
จบคำว่า ‘สิทธิ์’ เรียวปากนุ่มก็ถูกตะโปมจูบแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ตั้งรับ ปลายลิ้นหนาสอดแทรกรุกล้ำตามอำเภอใจ แม้อยากขัดใจแต่ทำได้เพียงครางค้าน แทนที่เธอจะขยุ้มผมสั้นแล้วกระชาก กลับกดบังคับเปิดทางให้คนเอาแต่ใจบดคลึงกลีบปากนุ่มอย่างย่ามใจ ท่อนขาเกี่ยวกระหวัดเอวสอบอย่างรู้งาน
“เป็นไง?” เปรยถามชิดเรียวปากนุ่มหลังดึงกลีบปากล่างจนแนบติด
คนถูกถามเอาแต่งงหัวหมุน มองจ้องนัยน์ตามคมปราบดุจเสือร้าย ทำตัวไม่ถูกได้แต่เกาะบ่าแกร่งนิ่ง เขาสั่งให้ยกแขนก็ทำตาม เขาถอดบราแบบครึ่งตัวออกก็อำนวยความสะดวกให้ไม่มีขัด
กระทั่งใบหน้าคมก้มงับเม็ดบัวสีหวาน ปาดไล้ดูดกลืนเล่นอย่างลำพอง
“โอ๊ะ! หยุด! ไม่นะ” ประท้วงพลางผลักบ่าแกร่งออกห่างเชยคางแกร่งขึ้นสบนัยน์ตาคม “ทำบ้าไรของพี่เนี่ย!”
“ก็ถามหาสิทธิ์ พี่ก็กำลังจะก่อสิทธิ์” เล่าพลางใช้มือข้างที่ว่างคลึงอกอิ่ม อีกข้างบีบเคล้นบั้นท้ายนุ่มแน่น ก่อกระแสซ่านเสียดให้คนในอ้อมแขน
“ปล่อย!” ห้ามเสียงสั่นปร่า ดิ้นขยุกขยิกแต่ไร้ผล
“ถ้ายังดิ้นแบบนี้ พี่จะไม่เล้าโลมแล้วนะ” เขาเตือนเสียงเข้ม พลันก้มหน้าซุกซบซอกคอนุ่มเย็น ปฏิบัติการกล่อมให้คนให้อ้อมแขนคล้อยตามดุจเดิม
“อื้อ...” เสียงประท้วงราวกระซิบวิบหวิว ร่างงามบิดพลิ้วยินดีไปกับการชักนำของคนตัวโต ดีที่ครึ่งล่างอยู่ในน้ำมิเช่นนั้นแล้วคง ‘น่าดู’
Download
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น